วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ใบปัดน้ำฝน

ใบปัดน้ำฝน

การเลือกซื้อใบปัดน้ำฝน
ควรเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนที่ผลิตจากวัสดุ และเนื้อยางที่มีคุณภาพดี  เพื่อให้ทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่  และสามรถใช้งานได้นาน  ใบปัดน้ำฝนที่ดี  ส่วนโครงของใบปัดน้ำฝน  ควรจะทำจากวัสดุที่เป็นโลหะทั้งโครง  เพื่อช่วยป้องกันการกระพือจากแรงลมในขณะใช้ความเร็วสูง  และสามารถเพิ่มน้ำหนักในการรีดน้ำให้เรียบอีกด้วย

      นอกจากนี้  เนื้อยางของใบปัดน้ำฝนก็มีส่วนสำคุญ  ควรพิจรณาเลือกซื้อใบปัดน้ำฝนที่มีเนื้อยางสูตรเฉพาะ  ที่เหมาะสำหรับการใช้ในประเทศเขตร้อนอย่างประเทศไทย  ซึ่งจะมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถคงคุณภาพยางไม่ให้เสื่อมเร็วเกินไป

      ใบปัดน้ำฝนบางชนิดอาจจะมีราคาถูก  แต่อาจจะเสื่อมประสิทธิภาพภายหลังการใช้เพียง  1-2  ครั้ง  เนื่องจากผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพต่ำ  ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ขับขี่ได้

เทคนิค และการดูแลรักษาใบปัดน้ำฝน

ที่ปัดน้ำฝนเป็นอุปกรณ์หนึ่งซึ่งสำคัญกับความปลอดภัยในการขับขี่รถยนต์  โดยเจ้าของรถส่วนใหญ่มักจะละเลย และไม่นึกถึง จะมาเห็นความสำคัญเมื่อตอนที่เจอฝน  ซึ่งตอนนั้นอาจจะสายเกินไป  ส่วนประกอบสำคัญของที่ปัดน้ำฝนที่ต้องดูแลสภาพค่อนข้างสมำเสมอ  เนื่องจากมีการเสื่อมสภาพหลังจากที่ผ่านการใช้งานมาระยะเวลาหนึ่ง  คือส่วนโครง และใบปัดน้ำฝน ซึ่งโดยทั่วไปมักจะมีคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนดังต่อไปนี้

1.ควรเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนเมื่อไร?

      เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่  ควรทำการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนเป็นประจำทุกปี  ทั้งนี้เนื่องจากใบปัดน้ำฝน  โดยทั่วไป  จะมีอายุการใช้งานประมาณ  6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และวัสดุที่ใช้ในการผลิต

2.รู้ได้อย่างไรว่าที่ปัดน้ำฝนหมดอายุการใช้งาน?

      เมื่อผ่านการใช้งานมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว  ที่ปัดน้ำฝนจะมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง  ซึ่งอาจทำให้ไม่ปลอดภัยเวลาขับขี่  โดยมีอาการหลายอย่างที่บ่งบอกถึงการเสื่อมสภาพของที่ปัดน้ำฝน  ได้แก่ ใบปัดเป็นรอยทำให้ปัดน้ำได้ไม่หมด ,ใบปัดสะดุด ,มีเสียงดังเวลาปัด  และใบปัดฉีกขาด

3.ถ้าที่ปัดน้ำฝนไม่ค่อยได้ใช้งาน  เรามีความจำเป็นในการเปลี่ยนหรือไม่?

      ถึงแม้ว่าไม่ค่อยได้ใช้งาน ใบปัดน้ำฝนก็ยังต้องรับกับสภาวะต่างๆนอกรถ  เช่น  แสง UV  และความร้อนจากแสงแดด  หรือมลภาวะ  ฝุ่นต่างๆ ทีมีผลกระทบกับประสิทธิภาพการทำงานของใบปัด ซึ่งทำมาจากยาง ทำให้เรามีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนตามอายุการใช้งาน เพื่อความปลอดภัย

4.ขนาดของใบปัดน้ำฝน

      รถแต่ละรุ่นจะใช้ใบปัดน้ำฝนขนาดที่แตกต่างกัน  ในการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน  จึงควรจะดูขนาดที่ระบุอยู่ในคู่มือของรถรุ่นนั้นๆ  หรือสามารถเทียบดูรุ่นรถที่ระบุไว้บนกล่องใบปัดน้ำฝนได้เช่นกัน

      ในกรณีที่ติดใบปัดผิดขนาด  ถ้าเล็กไปจะทำให้รัศมีในการปัดน้อยลง  ทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ไม่ดี  ถ้าใหญ่ไปใบปัดอาจจะเลยขอบกระจก ทำให้ใบปัดเสีย  และอายุการใช้งานน้อยลง

5.การทำความสะอาดใบปัดน้ำฝน

      เพราะว่าใบปัดน้ำฝน จะมีหน้าที่ปัดสิ่งสกปรกออกจากกระจก  ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น  หรือคราบต่าง ๆ ทำให้สิ่งเหล่านั้นอาจเกาะอยู่บนใบปัด ทำให้ใบปัดไม่สะอาด  ซึ่งเราสามารถทำความสะอาดได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำ  แล้วรูดไปตามใบปัด  ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆ โดยเฉพาะผงซักฟอก  เพราะจะทำให้ใบปัด และสีของรถเสียหายได้

จอดรถกลางแดด ควรยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นหรือไม่ ?
หลาย ๆ ท่าน เวลาจอดรถกลางแดด มักจะยกก้านปัดน้ำฝนขึ้น
เพราะจะได้ช่วยลดความร้อนไม่ให้ยางเสื่อมเร็ว

แต่ในความเป็นจริงแล้ว การยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นเป็นเวลานาน ๆ จะเกิดผลเสียต่อสปริง ทำให้สปริงล้า
และส่งผลให้ยางปัดน้ำฝนไม่แนบกับกระจกตลอดความยาวได้ รวมทั้งแกนหมุนมอเตอร์ก็จะต้องรับน้ำหนักมากกว่าปกติด้วย

ยางที่ปัดน้ำฝนมีคุณสมบัติทนต่อความร้อนได้ดี และ ที่ผิวกระจกก็ไม่ได้มีความร้อนสูงมากมายนัก
ไม่ว่าจะยกก้านหรือไม่ยกก้าน ยางปัดน้ำฝนก็จะเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติของยางอยู่ดี
อาจจะ 6-12 เดือน ก็ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนยาง







เอกภัณฑ์อะหลั่ย
จำหน่ายใบปัดน้ำฝนทุกรุ่นหลายยี่ห้อ ทั้งใบปัด และเฉพาะยางเปลี่ยน
โทร 038443084

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น